ติดเครดิตบูโรติดแบล็คลิส ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับใครก็ตาม เพราะนั่นหมายความว่าคุณจะถูกหมายหัวจากเหล่าธนาคารและสถาบันการเงิน ไม่ให้คุณกู้ยืมเงินอีกอย่างน้อยๆ ก็ 3 ปี ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณแทบจะหมดสิทธิ์ซื้อบ้าน ซื้อรถ ลงทุนทำธุรกิจ และซื้อสิ่งอำนวยความสะดวก หรือของที่ต้องการต่างๆ เลยล่ะครับ เพราะคุณต้องเก็บเงินเพื่อจะใช้เงินสดอย่างเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเรื่องของเครดิตบูโรเป็นสิ่งที่เราต้องใส่ใจ ติดแบล็คลิสแล้วแก้ยังไงเช็กเครดิตบูโรตัวเองยังไง ติดแบล็คลิสกี่ปีหมดทุกอย่างรู้ไว้จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความเสี่ยงได้มากขึ้น
เริ่มจากทำความเข้าใจกันก่อนว่าเครดิตบูโรคืออะไร มันก็คือ ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของตัวเราเนี่ยแหละครับ แต่จะเป็นประวัติทางการเงิน ประวัติทางการชำระหนี้ต่างๆ ว่าเราเคยมีหนี้อะไร กู้ยืมเงินอะไรบ้าง เท่าไหร่ ยังไง ใช้จ่ายหมดไปรึยัง เคยเบี้ยวหนี้มั้ย เคยค้างชำระอะไรหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลการเงินของสถาบันการเงินแห่งเดียวนะครับ แต่เป็นการกู้ในระบบทุกอย่างเนี่ยจะถูกเก็บบันทึกไว้ในเครดิตบูโรทั้งหมด
เพราะแบบนี้แหละทุกธนาคารจึงจะถือเครดิตบูโรของเราไว้เหมือนกัน ทำให้เวลาติดแบล็คลิสแล้ว ไม่ว่าจะไปกู้ที่ไหนก็ไม่ผ่านทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ ที่อยู่ วัน เดือน ปี เกิด สถานภาพการแต่งงาน อาชีพของเรา เลขที่บัตรประชาชน และถ้าใครเป็นเจ้าของกิจการก็จะมีพวกข้อมูลของสถานประกอบการทุกอย่างอยู่ครบเลยล่ะครับ ทำให้ทราบทันทีว่าเราเป็นใคร อะไรยังไง ข้อมูลแน่นมากๆ
ถ้าใครเคยขอสินเชื่ออะไรแล้วเค้าอนุมัติมาให้เรา ประวัติทุกอย่างจะถูกบันทึกเอาไว้หมด ว่าเราขอสินเชื่อตัวไหน เราชำระตรงเวลาหรือไม่ ประวัติการจ่ายเงินเป็นยังไง ราคาสินค้าหรือบริการเท่าไหร่ คือเช็กได้หมดเลยล่ะครับ
สำหรับใครที่ยังนึกภาพไม่ออก ยังตามไม่ทันว่า ทำไมเครดิตบูโรถึงสำคัญนัก ก็แค่ประวัติการกู้ขอสินเชื่อแค่นั้นเอง ตรงนี้บอกเลยว่าสำคัญมากครับ เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมความรับผิดชอบของเราทั้งหมดเลย ว่าเรามีวินัยทางการเงินยังไงบ้าง เราตั้งใจที่จะชำระหนี้สินตามที่ได้ตกลงกันมั้ย
ซึ่งเกี่ยวพันถึงความน่าเชื่อถือเนี่ยแหละ เค้าเลยเรียกว่า "เครดิต” นั่นเอง เพราะถ้าเราเครดิตไม่ดี กู้ไว้แต่ไม่จ่าย แบบนี้ในอนาคตใครจะอยากให้กู้ จริงมั้ยครับ สถาบันการเงินเค้าก็จะใช้ข้อมูลง่ายๆ ตรงนี้เนี่ยแหละ 2 ส่วนนี้ที่ได้บอกไปข้างต้น ในการประเมินว่าคุณควรจะได้รับสินเชื่อที่ขอมั้ย
ถ้าเรามีประวัติดี ตรวจสอบเครดิตบูโรแล้วไม่มีอะไรให้หนักใจ ก็จะกู้ยืมเงินกับธนาคาร ขอสินเชื่อต่างๆ ผ่านได้ง่าย แต่ถ้าเช็กเครดิตบูโรแล้วเราแย่มาก ค้างชำระเพียบ เบี้ยวหนี้ ประวัติไม่ดี แบบนี้ติดแบล็คลิสแน่นอนครับ
สำหรับคนที่เคยทำผิดพลาดไป เราสามารถกลับตัวกลับใจใหม่ได้ครับ เพราะถ้าเช็กแล้วตัวเองติดเครดิตบูโร มีแบล็กลิสต์จริงๆ ก็ต้องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
ติดต่อกับสถาบันการเงินเลยว่าเราค้างหนี้ใครไว้บ้าง และชำระให้หมดโดยด่วน แต่ถ้าค้างเยอะมาก ก็ให้คุยเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ เพื่อขอลดหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้
หลังจากชำระหนี้ไปแล้ว คุณอาจจะยังสงสัยว่าเราจะติดแบล็คลิสกี่ปีหมด เครดิตบูโรกี่ปี นี่แหละครับคือคำตอบ เพราะหลักฐานประวัติหนี้เสียคุณจะยังค้างอยู่ในระบบ 3 ปี ทำให้การอนุมัตินั้นยังคงยากอยู่ดี
หลังจากครบ 3 ปี เครดิตบูโรของคุณก็จะหมดไป คุณจะเป็นคนที่ขาวสะอาด และพร้อมสำหรับการกู้ยืมอีกครั้ง หนนี้แหละที่คุณต้องเริ่มปรับเปลี่ยนนิสัยและหันมาชำระหนี้ให้ตรงตามที่สถาบันการเงินได้ตกลงไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเดิม
สุดท้ายแล้วสำหรับคนที่ติดแบล็คลิสก็อย่าเพิ่งหมดหวังนะครับ เพราะเรายังมีสินเชื่อเพื่อคนติดบูโรให้ได้กู้ยืมกันอยู่ เช่น บัตรกดเงินสด สินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้มีประวัติติดแบล็คลิส สินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับผู้มีประวัติติดแบล็คลิส และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งธนาคารจะออกแคมเปญเหล่านี้มาเพื่อช่วยเหลือคนที่มีเครดิตบูโรไม่ดีนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณเองก็ยังคงต้องชำระหนี้เก่าๆ ทิ้งไปให้หมดก่อนนะครับ เพราะถ้ายังมียอดค้างชำระอยู่ก็คงไม่มีใครอยากให้คุณกู้ยืมแน่นอน เพราะฉะนั้น ชำระเสร็จแล้ว เรียบร้อย ไม่มีหนี้ค้าง แล้วค่อยมาใช้บริการสินเชื่อเพื่อคนติดบูโรเหล่านี้ก็ยังไม่สาย
ทางที่ดีพยายามเคลียร์ตัวเองอย่าให้ติดแบล็คลิสเหล่านี้เลยจะดีที่สุดเพราะมันต้องใช้ระยะเวลาการชำระล้างประวัตินานถึง 3 ปี ดังนั้นเพื่อนๆ ที่เป็นหนี้อะไร หรือกู้ยืมใครมาก็อย่าลืมชดใช้ชำระกันตามตกลงด้วยนะครับ รักษาประวัติดีเอาไว้ เวลาต้องการใช้เงินในอนาคตก็จะได้เป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วย